อ.พัชนี

จากประสบการณ์กว่า ๔๐ ปี ของการตรวจดวงชะตา ด้วยการถอดรหัสชีวิตโดยระบบเมตริก
นับเป็นเคล็ดวิชาอ่านเส้นทางชีวิตบนฝ่ามือ ที่แม่นยำที่สุด  
ความลับมหาศาสตร์แห่งฝ่ามือ ได้เปิดเผยอย่างหมดจดแล้ว...

หัตถศาสตร์ หรือวิชาว่าด้วยการวิเคราะห์เส้นสายลายมือเพื่ออ่านความเป็นไป ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของมนุษย์แต่ละคน เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ซึ่งค่อนข้างละเอียดลึกซึ้งยิ่ง

        วิชาการอ่านลายมือเป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง ซึ่งมีต้นตอกำเนิดเกิดขึ้นในประเทศอินเดีย และมีการค้นคว้าศึกษากันไปในหลาย ๆ ประเทศ เช่น ฝรั่งเศส กรีก ในประเทศแถบยุโรป และรวมทั้งประเทศอเมริกาด้วย แต่กลับไปแพร่หลายในประเทศจีน  ปัจจุบันก็ยังมีการค้นคว้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และศาสตร์ลายมือในอนาคตจะเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก  ปัจจุบันแทบทุกประเทศในแถบยุโรป อเมริกา รวมทั้งเมื่องไทย  การจับผู้ร้ายก็ต้องใช้ลายมือเข้ามาพิสูจน์ เพราะลายมือในโลกนี้จะไม่มีใครเหมือนกันเลย

        แต่น่าเสียดายที่ปรมาจารย์แทบทุกสำนักมักหวงวิชา ปกปิดเก็บงำไม้ตายไว้ไม่ค่อยเปิดเผยแก่อนุชนรุ่นหลังที่เป็นคนนอกตระกูล  นานวันเข้าปีต่อปีล่วงผ่าน จนกลายเป็นศตวรรษ และหลายศตวรรษ ศาสตร์ลายมือก็เริ่มเฉไฉผิดเพี้ยน บิดเบือนออกนอกลู่นอกทางตามแก่นแท้ของหลักวิชาการที่แท้จริง  ดิฉัน พัชนี ตุษยะเดช ได้ศึกษาวิชาลายมือมากจาก คุณยายขุนทอง กุลเพ็ชร์ ซึ่งเป็นยายแท้ ๆ ของดิฉันเอง ท่านเป็นลูกคนจีน คุณพ่อของท่านคือ อาเหล่ากง (ทวด) ของ ดิฉัน เป็นคนจีนไว้หางเปีย อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทย โดยทำศาสตร์การวิเคราะห์ชะตาชีวิตจากลายมือติดตัวมาด้วย แต่ท่านไม่เคยใช้เป็นวิชาชีพ เมื่อสิ้นบุญอาเหล่ากง คุณยายของดิฉันซึ่งเป็นบุตรสาวคนเดียวของท่าน ก็รับช่วงเอาวิชานี้ติดตัวไว้ คุณยายมีลูกหลานหลายคน แต่ท่านก็พยายามที่จะสอนศาสตร์ลายมือให้ดิฉันเพียงคนเดียว คำพูดที่คุณยายพูดให้ดิฉันได้ยินอยู่ตลอดเวลาคือ "สักวันหนึ่งจะรู้ค่าของลายมือที่ยายพยายามสอนเจ้า จากวันนั้นมา ดิฉันก็คลุกคลีอยู่กับศาสตร์ลายมือโดยไม่ได้ตั้งใจ ตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบ ดิฉันเป็นคนที่มีเพื่อนมาก เพราะลายมือมีเสน่ห์มากในการรู้นิสัยคน วางแผนชีวิต เลือกแนวทางอาชีพได้ คัดเลือกบุคคลากรให้เหมาะสมกับงาน ดิฉันพยายามค้นคว้าและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ตลอดระยะเวลากว่าสี่สิบปี ลายมือคือลายแทงของชีวิตหรือแผนที่ของชีวิตของแต่ละคนซึ่งติดตัวมาตั้งแต่ เกิด เพราะฉะนั้นผู้ที่แตกฉานเชี่ยวชาญทางด้านศาสตร์ลายมืออย่างลึกซึ้งถ่องแท้ ย่อมสามารถถอดรหัสชีวิตบนฝ่ามือ ล่วงรู้แนวทางของชีวิต ทั้งในเรื่องความรัก โชคลาภ บาปเคราะห์ บุญวาสนา ความรุ่งโรจน์ หรือล้มเหลวพ่ายแพ้ ซึ่งเมื่อรู้ตัวล่วงหน้า ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะวางแผนเตรียมป้องกัน ปัดเป่า หลีกเลี่ยง ผ่อนหนักเป็นเบา หรือทุ่มสู้สุดตัวเพื่อได้โอกาส

        อนึ่ง ผู้ที่สนใจใคร่ศึกษาเรียนรู้วิชาหัตถศาสตร์ ควรจะรวบรวมสะสมหนังสือชุดนี้ ซึ่งเปรียบเสมือนตำราอันทรงคุณประโยชน์ไว้ เพื่อที่จะได้อ่านทบทวนหลักเกณฑ์วิชาการต่าง ๆ โดยสม่ำเสมอให้ข้อมูลรายละเอียดทั้งมวลซึมลึกเข้าไปในความทรงจำ จนกลายเป็นสัญชาตญาณ

        ต่อจากนั้นก็ให้ทดลองวิเคราะห์ลายมือตัวเองเป็นอันดับแรก จนแน่ใจในความถูกต้องแม่นยำและมีความเชื่อมั่น จึงค่อยหาประสบการณ์ใหม่ ด้วยการขยัยขยายวงออกไป พิจารณาลายแทงชีวิตบนฝ่ามือของญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงใกล้ชิดที่พบปะตาม แต่โอกาส

        ยิ่งมากคน ความช่ำชองชำนิชำนาญก็จะยิ่งงอกเงยเพิ่มพูนขึ้นเป็นเงาตามตัว!

        ในที่สุด ท่านก็จะเป็นอีกคนหนึ่งที่รู้ลึก รู้แจ้ง รู้จริง ถึงระดับที่สามารถนำศาสตร์นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง และสังคมรอบข้างได้อย่างแน่นอน!

        จะอย่างไรก็ตาม พึงระลึกไว้เสมอว่าว่าวิชาหัตถศาสตร์ทุกระดับ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานขึ้นไปจนถึงสูงสุด ล้วนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนลึกซึ้ง ไม่อาจจะศึกษากันแบบรวบรัดหรือก้าวกระโดดได้โดยเด็ดขาด!
 
         เก่งกาจฉลาดเฉลียวปานใดก็ไม่อาจเรียนลวก ๆ แบบสุกเอาเผากิน ทุกประการต้องดำเนินไปตามขั้นตอนและเป็นระบบ ต้องใช้ทั้งความอดทน ความรักที่จะศึกษา ความขยันหมั่นเพียร การเอาใจใส่ และเวลามากพอสมควร และไม่เพียงแต่เท่านั้น  การใฝ่ใจค้นคว้าศึกษาเพิ่มเติมก็เป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญยิ่ง!

        ตุ่มที่บรรจุน้ำไว้จนเต็มปรี่ หากไม่มีการตักตวงมาเพิ่มเติมเป็นประจำ น้ำก็ย่อมจะพร่องลงเรื่อย ๆ
จนกลายเป็นแห้งขอดได้ในไม่ช้า

นี่คือสัจธรรมที่ไม่อาจปฏิเสธ!

        ตัวดิฉันเอง แม้จะร่ำเรียนจนเรียกได้ว่าทะลุปรุโปร่งและผ่านประสบการณ์มานานหลายสิบปีก็ ตาม ณ วันนี้ก็ยังไม่ยอมหยุดนิ่ง ไม่ยอมทิ้งตุ่มไว้เฉย ๆ ให้น้ำเหือดแห้ง

        ดิฉันยังคงเสาะแสวงหาวิชาการ ตลอดจนแนวทางแปลกใหม่ในการอ่านรหัสชีวิตที่เห็นว่ามีคุณค่ามาประดับสติปัญญาอยู่ทุกโอกาส

        ความรู้เรียนกันไม่จบหรอกค่ะ

        อย่าถอดใจท้อถอยก็แล้วกัน

        และอย่าลืมภาษิตเก่าแก่บทที่ว่า กรุงโรมมิได้สร้างเสร็จในวนเดียว เพราะแม้จะใช้เวลานาน แต่เมื่อเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ กรุงโรมก็ยิ่งใหญ่ตระการตา โอ่อ่าโอฬารอัครฐานเต็มภาคภูมิ!

        ดิฉันหวังให้ทุกคนเป็นเช่นนั้นค่ะ!

                                                                                                                   ด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจ
          
                                                                                                                   โดย อาจารย์ พัชนี   ตุษยะเดช